เมื่อความสัมพันธ์ต้องจบลง บางคู่ก็แยกทางกันด้วยดี บางคู่ก็จบด้วยความรู้สึก โกรธ เ ก ลี ย ดไม่ว่าจะอย่ างไรก็ตาม ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง มีหลายๆ คู่ที่จบกันแล้วแต่ไม่ยอมจบง่ายๆ
ตัวอย่ างมีให้เห็นมากมายจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแฉพฤติก ร ร มคู่รัก การพูดถึงกันในทางที่ไม่ดีทั้งที่ก่อนหน้าเคยมีความรู้สึกดีๆ ให้ต่อกัน เมื่อเรื่องราวของคนสองคนการเป็นเรื่องราวสาธารณะคุณคิดดีแล้วใช่มั้ย.. ว่าจะได้อะไรกลับมา เมื่อเลิกกันแล้วให้มันจบ ๆ ไป
1. พูดถึงข้อเสีย เรื่องราวไม่ดีให้คนอื่นฟัง
ตอนรักกันหวานชื่น มองผิดเป็นถูกได้ ในบางคนใครเตือนเท่าไรก็ไม่ฟัง แต่เมื่อวันที่ต้องเลิกรามาถึงจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามแต่ แต่ตัวคุณเองไม่พอใจจึงเลือกที่จะพูดถึงเรื่องราวด้านเสียๆ ของเขาให้คนอื่นได้ฟัง
คุณพย าย ามให้ตัวเองรู้สึกว่าที่เลิกกันน่ะ ไม่ใช่เพราะคุณ แต่เป็นเพราะเขา คนอื่นที่รับฟังเขาก็ฟังเพียงเท่านั้นอย่ าลืมสิมันเป็นเรื่องระหว่างคุณกับอดีตคนรัก ยิ่งพูดไปคนอื่นก็จะยิ่งมองว่าคุณน่ะเป็นคนที่แพ้แล้วพาล
2. โพสต์ประจานบนโซเชียล
ตัวอย่ างมีให้เห็นมากมาย เพราะอารมณ์ ชั่ ว วูบความโมโห ที่ทำให้โพสต์อะไรไปไม่คิด การที่คุณเขียนเรื่องราวต่างๆประจานอดีตคนรัก ไม่ว่าจะเป็นภาพ ข้อความ หรือ แ ช ร์ เฟสบุ๊กเขาให้คนอื่นได้รับรู้ว่าไม่ดียังไงนั้น
เป็นการละเมิดสิทธิคนอื่น ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดนฟ้องฐานหมิ่นประมาทได้ หากเรื่องกลายเป็นประเด็นใหญ่โตขึ้นมาไม่ใช่แค่อดีตคนรัก ตัวคุณเองก็อาจจะโดนขุดประวัติแล้วคนอื่นเอามาแฉได้เช่นกัน
3. ว่าไปถึงบุพการี และคนอื่นๆ รอบตัว
เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และแสดงออกถึงการเป็นคนที่ไม่มีกาละเทศะ อย่ าลืมว่า คุณเองเป็นคนเลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับเขาตั้งแต่แรก เมื่อความรักต้องจบลง แทนที่จะเสียเวลามานั่งโกรธแค้น โทษพลายคนอื่นไปทั่วควรต้องยอมรับ และเดินหน้าต่อไป ให้ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้คุณได้รู้จะดีกว่ามั้ย….
4. อย่ าโทษตัวเอง และอย่ าโทษอดีตคนรัก
ไม่ว่าจะโทษใคร ไม่มีอะไรกลับมาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ความรักที่จบไปแล้วก็คือจบ ยอมรับและอย่ าทำให้ตัวเองต้องรู้สึกจมอยู่กับความเศร้าเลยค่ะ ออกไปหาอะไรทำสร้างสีสันให้ชีวิตใหม่ ๆ ดีกว่านะ
ที่มา : thatlikegood
