
หลังจากที่ ขงเบ้ง ได้คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ หลายครั้งในการปะลองปัญญากับ สุมาอี้ นั้นเขาทั้งสองคน ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ จนเรียกได้ว่า ต่างก็รู้ไส้รู้พุง ของกันและกันจนหมดสิ้น
ขงเบ้ง รู้ว่าสุมาอี้นั้นเป็นคนขี้ระแวงและรอบคอบมากการที่จะทำให้สุมาอี้หลงกลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครั้งนี้ เขาจึงวางแผนอย่างดีที่สุด รัดกุมที่สุดเพื่อจะลวงให้สุมาอี้เข้ามาในพื้นที่ที่วางแผนเอาไว้ แล้วเผาด้วยไฟ…!!
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ขงเบ้งวางเอาไว้แม้สุมาอี้ จะไม่หลงกลง่ายๆ แต่สุดท้ายก็มาพอสุมาอี้และกองทัพเข้ามาในพื้นที่ที่วางแผนเอาไว้ขงเบ้ง จึงสั่งให้ปิดทางหนี และ จุดไฟเผาทัพสุมาอี้
สุมาอี้ พอเห็นเหตุการณ์นั้นขึ้นก็เข่าอ่อนรู้ตัวว่าหลงกลเข้าแล้ว จึงกอดคอกันร้องไห้กับลูกชายว่าชีวิตเราพ่อลูก คงหนีไม่พ้นคราวนี้แน่แท้แต่ในขณะที่สุมาอี้ กำลังสิ้นหวังอยู่นั้น
ฝนห่าใหญ่ ก็ตกลงมาดับไฟ เสียสิ้น…!!!สุมาอี้และลูกชาย ร้องดีใจอย่างสุดชีวิตฝนตกลงมาดับไฟ ทำให้รอด ต า ย มาจนได้ฝ่ายขงเบ้งนั้น ถึงกับยืนนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำอะไรไม่ถูก เมื่อทุกอย่างได้เตรียมการมาอย่างดีแล้ว
ได้แต่หลับตาและเงยหน้าขึ้นฟ้า ให้สายฝนหล่นกระทบหน้าและรู้ดีว่าโอกาสที่จะกำจัดสุมาอี้นั้น ได้หมดลงแล้ว และ ก็เป็นจริงตามนั้น…สุมาอี้ หลังจากที่รอดมาได้ ก็เก็บตัวไม่ออกมารบกับขงเบ้งอีกเลย… แม้ขงเบ้งจะยั่วยุเพียงใดก็ตาม
คุณเคยตกอยู่ในอาการแบบขงเบ้งนี้ไหมครับ เมื่อวางแผน… ทุกอย่างมาลงตัวหมดแล้วอีกแค่ไม่กี่อึดใจข้างหน้า ก็จะสำเร็จแล้ว แต่วินาทีสุดท้าย…มันกลับล้มเหลว
คุณจะช็อก จนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย เข่าคุณจะอ่อนแทบทรุด จนแทบจะยืนไม่อยู่ปากคุณจะหนัก จนพูดอะไรไม่ออกคุณจะรับรู้ได้ทันทีเลยว่า… “โอกาสดีๆแบบนี้…จะไม่มีมาอีกแล้ว”
ถ้าความล้มเหลวที่เกิดขึ้นนั้นมาจาก “ปัจจัยภายนอก” ที่คุณควบคุมไม่ได้และคุณมั่นใจว่าได้ควบคุม “ปัจจัยภายใน” อย่างดีที่สุแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะครับ…ช่างมันจงเงยหน้าขึ้นอย่าก้มหน้าลง เพราะ… คุณได้ทำมันอย่างดีที่สุดแล้ว
จงเงยหน้าขึ้น และไม่ต้องมองหาข้อผิดพลาดที่ไหนเงยหน้าขึ้น ยอมรับความจริงที่คุณเห็นจงเงยหน้าขึ้น…แล้วปล่อยมันไปถ้าทุ่มสุดตัวแล้วยังไม่ได้… ถ้าสุดมือแล้ว…ก็ต้องปล่อยมันไป
ที่มา : สามก๊ก..ตั้งวง