
เมื่อสิ้นวาสนาต่อ กัน ต่อให้รักกัน มากแค่ไหน ก็ต้องจากกันอยู่ดีไม่มีใครอยู่กับเราไปได้ตลอ ดชีวิตหรอก จะอย ากจากหรือไม่ก็ต้องจากเพราะการจากลาคือความจริงของชีวิต ที่ต้องยอมรับให้ได้ คนเคยกอดกัน รักกัน มากแค่ไหนซักวันก็ต้องจากหายไป คนเรานั้นไม่รู้หรอ กว่าจะอยู่ด้วยกันถึงวันไหน เพราะไม่มีใครสามารถล่วงรู้เหตุการณ์อนาคตได้
ชีวิตคู่ของคนสองคนก็เหมือนกับเส้นด้ายบางๆ ที่ไม่รู้ว่าจะขาดออกจากกันวันไหน เพราะบางทีเราก็ทำให้มันขาดไวขึ้นด้วยตัวของเราเอง เพราะฉะนั้นในช่วงที่คุณยังรักกัน หากอะไรที่ยอมๆกันได้ก็ยอมกันไปเถอะ อย่ าทะเลาะหรือทำให้ต่างฝ่ายต้องมานั่งเสียใจเลย เพราะคู่รักบางคู่เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้
กลับไปง้อคนที่เขารัก อย่ าให้ความทรงจำสุดท้าย ในชีวิตของพวกคุณ คือการที่คุณสองคนต้องมานั่งทะเลาะกัน และเสียน้ำตาให้กันอีกเลย ต่อให้รักกัน มาก เมื่อหมดบุญวาสนาต่อ กัน แล้วสุดท้าย ก็ต้องจากกันไป เมื่อช่วงชีวิตหนึ่ง เราอาจจะได้เจอคนรักที่ดี กับเราทุกอย่ าง
แต่ด้วยบุญวาสนา ที่เราไม่ได้เกิดมาคู่กัน เมื่อหมดบุญวาสนาที่มีต่อ กัน สุดท้ายเรา ก็ต้องเดินจากกันไป อยู่ดีวันนี้ เรามีบทความมาเตือนใจ คนที่ยังมีความรัก ที่ดีหมั่นสร้างบุญร่วมกัน ให้มาก ๆ บางทีความรัก
ก็เหมือนกับการชดใช้ ก ร ร มร่วมกัน เพราะใช่ว่าความรักนั้น จะโรยไปด้วย กลีบกุหลาบเสมอไปบางคู่ แรก ๆก็รักกันดีแต่พอมี ปัญหาก็กลายเป็น ไม่ถูกชะต ากันกลายเป็นคู่แค้นคู่อา ฆาต กันไปซะอย่ างนั้นทั้ง ๆ
ที่เคยรักกันเพราะ เมื่อถึงเวลาบางครั้ง คนเราก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี ต่อให้รู้สึกว่าไม่อย ากจากแต่ถ้าความรู้สึกมันไม่ได้ทุกอย่ างมีแต่ทางตันไปไหนต่อไม่ได้ก็ต้องยอมรับมันอยู่ดีให้คิดเสียเวลาการ เลิกราจากกันไปนั้น เหมือนเป็นการหมดเ ว รหมดก ร ร มต่อ กัน จะได้ไม่ต้องผูกพันกันต่อหรือต้องมามีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป บางคู่ในช่วงเวลาที่ยังรักกันนั้น
มักจะมีแต่ปัญหาแทนที่จะมีความสุข แต่กลับมีแต่ความทุกข์เรียกว่าเป็นความรักที่มีแต่กรร มร่วมกันเพราะฉะนั้นหากคนเราหมดเ ว รหมดก ร ร มต่อ กันสุดท้ายยังไงก็ต้องเลิกรากันไปอยู่ดีอาจ
เพราะหลายอย่ างที่มาเป็นส่วนเสริมเช่นความไม่เข้าใจ กันการนอ กใจหรือทะเลาะหรือเข้ากันไม่ได้ซึ่งส่วนใหญ่ มักจะเป็นสาเหตุให้คู่รักหล า ยๆคู่ เลิกกันไปและสุดท้ายก็แยกย้ายกันไปตามทางใครทางมันเหมือนเป็นการจบสิ้นเ ว รก ร ร มที่มีต่อ กันในชาตินี้ว่ากันว่าที่คนเราได้เจอ กันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะบุญ ก ร ร ม
ที่เราได้ทำร่วมกัน มาแต่ชาติก่อนแต่มีเหตุที่ต้องทำให้พรากจากกัน ก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาเตือนสติได้ดีมากหากสิ้นวาสนาก็ต้องจากกัน อยู่ดีมีชายหญิงคู่หนึ่งรักกัน มากคบกัน มา 3 ปีตกลงจะแต่งงานกัน
กำหนดวันเรียบร้อยฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะได้แต่งงานต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่าคู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่น อย่ างกะทันหันและฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจไม่ได้ถูกบังคับเขาทั้งงง และเสียใจมากเอาแต่ร้องไห้ไม่กินไม่นอนต่อมาก็ ป่ ว ย หนักเพราะตรอมใจ
เวลาผ่านไปฝ่ายชายอาการทรุดลงเรื่อยๆไปหา ห ม อ เท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นเลยต่อมามีหลวงต ารูปหนึ่งผ่าน มาเมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ ที่หน้าบ้านของชายคนนั้นแล้วมองเข้าไปในบ้านแล้วจึงเคาะประตูเด็กรับใช้ออ กมาเปิดประตูพบว่าเป็นพระจึงพูดว่าไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวง ต า ยิ้ม อย่ าง มีเมตต าและพูดว่าอาตมาไม่ได้มาบิณฑบาตหรอก ในบ้าน มีคน ป่ ว ย ใช่ไ ห ม อ าตมาพอมีความรู้ทางด้าน การแพทย์นิดหน่อยอาจจะพอช่วยได้นะ เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอก ว่าเดี๋ยวต้องไปถามเจ้านายก่อนเด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านายเจ้านายตอบอย่ างตัดรำคาญว่าอย ากเข้ามาก็ให้เข้ามาเมื่อหลวงต าเข้าไปที่ห้องนอนจึงพบว่าชายเจ้าของบ้านนอนอย่ างหมดอาลัย ต า ย อย ากอยู่สีหน้าซีดเซียว
ร่างกาย ก็ซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศ พเด็กรับใช้นำน้ำมา ถวายหลวงตาพร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายผู้นั้น หลวง ต า ย และพูดว่าอาการหนักเลยนะชายคนนั้นก็เงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงต าพูดหลวงต าตรวจอาการพอเป็นพิธีจึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ ชายคนนั้นก็ยังไม่สนใจหลวงต าบอ กว่าไม่เชื่อก็
มองที่กระจกสิชายคนนั้นไม่สนใจแต่หางต าก็แลไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอนเขามองเห็นภาพของคนรักในนั้นไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์
ชายทะเลที่แห่งนั้นเงียบสงบไม่มีคนผ่าน มา ขณะที่ชายคนที่ ป่ ว ย มองภาพในกระจกด้วย ความสนใจจึงพบว่ามีศ พหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาดเวลาผ่านไป สักครู่มีชายคนหนึ่งเดินผ่าน มาเขามองเห็นศ พหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ
จึงเดินผ่านไปอย่ างรวดเร็วต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนเดินผ่าน มาเขามองเห็นศ พเขาสงสารจึงถอ ดเสื้อนอ กออ กมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น ให้และเดินจากไปพักใหญ่ๆอีกเช่นเคยมีชายอีกคนเดิน ผ่าน มาเขาพบ คนนอน มีผ้าคลุมอยู่จึงเปิดดูเมื่อพบว่าเป็น ศ พ ด้วยใจ สงสาร
จึงจะฝังให้เรียบร้อยแต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุดเขาจึงตัดสินใจ ใช้มือทั้งสองข้างของเขาค่อยๆกอบทรายขึ้น มาเขาทำแบบนี้เรื่อยๆ จนถึงเย็นพอได้หลุมใหญ่พอสมควรจึงได้ฝังศ พผู้หญิงคนนั้นและจากไป จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศ พหญิงคนนั้นและค่อย ๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงอ ดีตคนรักของเขา เขาได้เห็นก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่งกระจก
ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่2แล้วก็ค่อยๆจางห า ยไปเหลือแต่เงาของตนเอง ในกระจกขณะนั้นหลวงต าพูดว่าทีนี้เข้าใจหรือยัง ศ พ นั้นคือคู่รักของโยมชายคนที่ช่วยฝังศ พเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติชาตินี้เธอเลยได้แต่งงานกับเขาส่วนโยม ช่วยคลุมศ พเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปีตอนนี้ พอครบสามปีวาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกันเมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอัก เ ลื อ ดออกมาเด็กรับใช้ก็ตกใจหลวง ต า ย ิ้ม แล้วพูดว่าโยมรอ ดแล้วเมื่อ
กี้โยมกระอัก เ ลื อ ด เอาเ ลื อ ด เสียออกมาแล้วนะต่อมาไม่นานชายคนนั้นได้ออ กบวชและติดต ามหลวงต ารูปนั้นในที่สุดเพราะคนเราเจอ กันไม่ใช่เรื่องบังเอิญความสัมพันธ์พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนคนรัก ฯ ล ฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอยเมื่อมีวาสนาไม่ต้อง
เรียกร้องใดๆ ถึงเวลาก็มาเจอ กัน แต่หากสิ้นวาสนาคงต้องจากกันรั้งยังไงก็ไม่อยู่ ในตอนที่ยังอยู่ด้วยกันคุณทำดีต่อคนรอบข้างของคุณหรือยังเพราะถึงเวลาที่ต้องจากกันไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้าก็เรียกมันกลับคืน มาไม่ได้ทำดี ต่อ กันไว้เถิดเพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องจากกันตอนไหน
ที่มา : pankanan