
ทุกคนอยากจะฟังสิ่งที่เขาอยากจะฟังเท่านั้นคนที่เข้าใจคุณ
ก็จะเข้าใจคุณตั้งแต่แรกคนที่ไม่เข้าใจคุณ เขาก็จะเลือกที่จะไม่เชื่อคุณไปตลอดอย่าเสียเวลาอธิบาย
กับคนที่จะฟังในสิ่งที่เขา.. อยากจะได้ยินเท่านั้นคุณควรจะคิดได้ว่า
คุณ พ ย า ย า ม ทำให้คนอื่นชอบ ในตัวคุณแต่พวกเขาไม่ได้ ‘แคร์’ คุณ เหมือนที่คุณ ‘แคร์’ เขาหรอก
พวกเขามาวิจารณ์แล้วก็ไป แต่ทิ้งผลลัพธ์มากมายไว้ในชีวิตคุณ
อย่าไปเสียเวลาอธิบายคนที่เข้าใจคุณผิด… สักวันความจริงย่อมปรากฎเองใน ห มู่ บ้ า น แห่งหนึ่ง
หญิงสาวคนหนึ่งเกิดตั้งท้อง ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นพ่อในท้อง
พ่อแม่ของหญิงสาวคนนี้ต่างก็ เฝ้าถามอยู่ทุกวี่วัน หญิงสาวก็ไม่ยอมปริปากบอกออกไปสักที พ่อแม่ก็
ถามบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนหญิงสาวทนแรงกดดันไม่ไหวจึงได้บอกออกไปว่า
“พ่อของลูกในท้องข้า เป็นพระอาวุโสรูปหนึ่งที่วัดใน ห มู่
บ้ า น นี่แหละ” เมื่อพ่อแม่รู้แบบนั้น
ก็พากันไปที่วัดใน ห มู่ บ้ า น แล้วไปต่อว่าพระอาวุโสรูปนั้นยกใหญ่
กลายเป็นที่ติฉิน นิ น ท า ของคนใน ห มู่ บ้ า น ทุกคนก็ต่างพากัน ประนาม พระรูปนั้นตามไปด้วย
ไม่นานหญิงสาวก็คลอดลูกออกมา ฐานะทางบ้านของหญิงสาวไม่ได้มั่งมีอะไร
ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ จึงพากันนำเด็ก ไปไว้กับพระอาวุโสรูปนั้น เพราะเข้าใจว่าเป็นพ่อของลูก
จะได้รับผิดชอบด้วย พระไม่ได้ว่าอะไรบอกแต่เพียงว่า “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง”
แล้วก็รับ เด็ก ไว้เลี้ยงเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระท่านก็พา เด็ก คนนี้ไปบิณฑบาตทุกเช้า
คนใน ห มู่ บ้ า น เห็น ต่างก็พากันนินทา และตำหนิพระอาวุโสกันหมดทั้ง ห มู่ บ้ า น
หลังผ่านไปได้ 1 ปี หญิงสาวรู้สึกผิดมากจึงไปส า ร ภ า พ ความจริงกับพ่อแม่ว่า
จริงๆแล้วพ่อของลูกไม่ใช่พระอาวุโสรูปนั้น แต่เป็นคนอื่น ซึ่งพระอาวุโสรูป
นั้นไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย ครอบครัวจึงได้พากันไปหาพระ แต่ภาพที่เห็นคือ พระท่านดู โ ท ร ม ล ง
กว่าเมื่อก่อนมากเพราะต้องเลี้ยงดู เด็ก แต่ เด็ก นั้นกลับอ้วนท่วมสมบูรณ์น่ารักน่าชัง
หญิงสาวจึงได้ ส า ร ภ า พ ผิ ด กับพระรูปนั้นพร้อมกับมากราบขอขมาพระท่านที่ล่วงเกิน
แต่พระท่านพูดออกมาเพียงว่า “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” พ่อแม่ของหญิงสาวจึงถามพระท่านว่า
“พระท่านถูกกล่าวหา มีแต่คน นินทา มาตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็มแต่ท่าน
กลับไม่เคยคิดที่จะไปแก้ตัวกับใครเลย แม้ว่าท่านก็รู้ว่าความจริงคืออะไร เพราะอะไร
หรือเจ้าคะ”พระท่านจึงบอกว่า “การบวชเป็นพระ ก็เพื่อตัด กิเลส ทั้งปวง ชื่อเสียงก็
เป็นเพียงของภายนอกที่คนสมมติกันขึ้นมา ถึงคนอื่นจะเข้าใจอาตมาผิดไปจากความเป็นจริง
อาตมาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่การที่อาตมารับ เด็กไว้เพื่อที่จะช่วยแม่และลูก
พ้นจาก วิ ก ฤ ต ครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่งเหมือนกันดังนั้น…หากมีคนเข้าใจผิดคุณ
แม้ว่าคุณจะรู้ความจริงอยู่แก่ใจว่าเป็นอย่างไร แต่เขาเหล่านั้นก็พร้อมจะเชื่อสิ่งที่เขา
ได้ยินมาแบบนั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปอธิบายให้เขาเข้าใจ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเรา
เพราะสุดท้ายเขาก็เชื่อสิ่งที่เขารู้มาแต่แรกอยู่แล้วฉะนั้นจงอย่าเสียเวลา
ไปอธิบายให้ใครฟัง ในเมื่อเขาต้องการจะเชื่อเรื่องราวผิด ๆ แต่แรกแล้ว
ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ของเราเอง แล้ววันหนึ่ง ความจริงก็จะปรากฏออกมาโดยที่เรา
ไม่ต้องไปตามอธิบายกับใครให้เหนื่อย
ที่มา : newface , เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล