
เวลาเราตั้งเป้าหมายเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรามักมองถึงภาพใหญ่อย่างการเป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้น หรือการมี สุ ข ภ า พ ดีขึ้น เมื่อเป้าหมายใหญ่ การวางแผนสิ่งที่ต้องทำจึงมักจะ ‘ยิ่งใหญ่’ ตามไปด้วย แต่เมื่อได้ลงมือทำจริง เรามักพบว่ามันทำยาก หรือทำได้ไม่ต่อเนื่องเท่าไร
วันนี้เราจึงขอชวนทุกคนกลับมาพิจารณาการกระทำเล็กๆ โดยเริ่มต้นจากการสร้างความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีในการเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน
ซึ่งแนวคิดเหล่านี้มีไอเดียมาจากการได้ อ่ า น บทความเรื่อง “30 Habits (You Can Build in Less Than 10 Minutes a Day) That Have A Huge Return On Life” โดย Thomas Oppong ในเว็บไซต์ Medium ที่มีหลายๆ ข้อน่าสนใจอย่างยิ่ง เราจึงคัดเลือกและเรียบเรียงมาให้คุณได้ อ่ า น กัน
แล้วมาเริ่มต้นวันพรุ่งนี้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการะทำเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วยกัน
1.ตระหนักไว้เสมอว่า ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดก็คือ ‘เวลา’
เราจะไม่พูดว่า เงินทองไม่สำคัญ เพราะเราทุกคนรู้ว่ามันสำคัญ แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่มีค่าไม่แพ้กันก็คือ “เวลา” ซึ่งเป็นสิ่งที่หมดไปทุกวัน (แม้เราไม่ได้ใช้) และไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะมีเวลามากหรือน้อยแค่ไหน ดังนั้น
เราจึงควรตระหนักไว้เสมอว่า ทุกๆ การกระทำของเรานั้นกำลังจ่ายด้วย “เวลา” อย่าลืมพิจารณาถึงความคุ้มค่า เช่นเดียวกับการใช้ทรัพย์สินอื่นๆ ในการลงทุน
2.อย่าเสียเวลาไปกับการคิดกังวลจนเกินไป
การคิดอย่างรอบคอบเป็นเรื่องที่ดี เราจะมองเห็นจุดอ่อนของสิ่งที่กำลังจะทำ และอาจหาวิธีป้องกันหรือแผนสองมารองรับได้ แต่อย่าเสียเวลาไปกับการคิดวิตกกังวลมากเกินไป
จนฉุดรั้งตัวเองไม่ให้เริ่มต้นทำอะไรได้เสียที ถ้าหากไม่สามารถหลุดพ้นจากความกังวลเหล่านี้ ลองเขียนสิ่งที่รู้สึกลงสมุดดู จะช่วยให้เราเข้าใจความคิดเหล่านั้นมากขึ้น
3.เริ่มต้นวันใหม่ด้วยกิจวัตรยามเช้าที่ดีกับตัวคุณ
อย่าฝากชีวิตไว้ที่หลังเลิกงาน ลองกำหนดสิ่งที่ควรทำในยามเช้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เช่น กิน อ า ห า ร เช้าก่อนออกจากบ้าน เพราะเวลาอื่นๆ
คุณมักกินข้าวไม่ตรงเวลา หรือฝึกโยคะ 15 นาทีหลังตื่นนอน เพราะคุณจะต้องนั่งทำงานนานๆ จนรู้สึก ป ว ด เมื่อยตาม ร่ า ง ก า ย เป็นต้น เลือกสิ่งที่ทำให้รู้สึกดี หรือรู้สึกถึงประโยชน์ แล้วคุณจะอยากทำกิจวัตรเหล่านี้ทุกวัน
4.จดบันทึกทุกวัน เพราะมันคือยาคลาย เ ค รี ย ด ที่ดีที่สุด
เราเคยมีพอดแคสต์เรื่อง “ทำไมการเขียนถึงทำให้เราดีขึ้นกว่าเดิม” (ฟังได้ที่ https://bit.ly/3sRWM4k) และในบทความนี้เราก็ยังยืนยันอย่างเดิมว่า
การเขียนช่วยพัฒนาเราได้จริงๆ และยังช่วยบรรเทาความ เ ค รี ย ด จากการได้เขียนระบายความรู้สึกออกมา พร้อมๆ กับการได้เข้าใจตัวเอง ผ่านการไตร่ตรองก่อนลงมือเขียนอีกด้วย
5.ออกกำลังกายด้วยวิธีที่รู้สึกว่าอยากทำในทุกๆ วัน
เทรนด์การออกกำลังกายเปลี่ยนไปทุกวัน สมัยก่อนเรามี T25 ต่อมาเรามีชาเลนจ์ออกกำลังใน 21 วัน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ทั้งการวิ่ง การว่ายน้ำ การเล่นพิลาทิส และอื่นๆ อีกมากมาย วิธีต่างๆ นี้มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเอง ทั้งความชอบ ประสิทธิภาพ ร่ า ง ก า ย เวลาที่มี และข้อจำกัดอื่นๆ ลองเลือกแบบที่เข้ากับตัวเองที่สุดและรู้สึกว่าอยากทำมันทุกวัน ไม่อย่างนั้นคุณจะเริ่มต้นได้ 2-3 วันแรกแล้วก็ล้มเลิกไปเอง
6.ใส่ใจกับการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
การได้นอนหลับสนิทจะช่วยฟื้นฟู ร่ า ง ก า ย ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่คนทั่วไปมักไม่ใส่ใจกับการนอนเท่าที่ควร หลายๆ ครั้งที่เราคลานขึ้นเตียงเพราะเหนื่อยล้าจากการทำงาน รู้สึกง่วงจนแทบเปิดตาไม่ไหว
แต่เมื่อหัวถึง ห ม อ น ส ม อ ง กลับโลดแล่นแบบไม่มีหยุดพัก และอาการนอนไม่หลับก็เล่นงานคุณอย่างฉับพลัน ถ้าหากคุณกำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้ ลองงดดื่มกาแฟช่วงบ่ายถึงเย็น ไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนเข้านอน หรือทำให้ห้องมืดสนิทและเงียบสงบเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างบรรยากาศของการนอนให้ดีที่สุด
7.นอนให้เพียงพอ การพักผ่อนน้อยคือจุดเริ่มต้นหายนะของชีวิต
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว นอนจากการนอนหลับสนิทแล้ว เราจำเป็นต้องนอนให้เพียงพออีกด้วย การอดนอนบ่อยๆ จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของ ร่ า ง ก า ย เป็น อั น ต ร า ย ต่อพลังสร้างสรรค์ คุณอาจรู้สึก ส ม อ ง ตื้อๆ มึนงง หลุดโฟกัสในตอนทำงานช่วงกลางวัน และนั่นคือการ ทำ ล า ย ความสุขในชีวิตอย่างสิ้นเชิง
8. อ่ า น หนังสือทุกวัน เพราะการ อ่ า น สามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้
หยิบหนังสือที่ชอบติดตัวไว้เสมอ ถ้าคุณไม่สะดวกพกเป็นเล่ม ก็สามารถซื้อแบบ E-Book ได้ แล้วเปิด อ่ า น มันทุกวันทุกเวลาที่ว่างแทนการเล่นโทรศัพท์ หรือไถหน้าฟีดไปเรื่อยๆ
เพราะการ อ่ า น คือการเรียนรู้โลกที่เราอาจไม่เคยพบเจอ ซึมซับและเข้าใจมันในเวลาแค่ไม่กี่นาทีที่เลื่อนสายตาผ่าน ดังนั้น ควร อ่ า น หนังสือให้เป็นนิสัย จนมันกลายเป็นกิจวัตรส่วนตัว
9.อย่าหยุดเรียนรู้ และควรศึกษาเพื่อชีวิตในวันข้างหน้า
ค อ ร์ ส ออนไลน์มีอยู่มากมาย ซึ่งคุณสามารถเลือกเรียนได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในศาสตร์ใหม่ๆ หรือการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้เดิมให้ลึกขึ้น รวมถึงงานอดิเรกอื่นๆ ที่ช่วยเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง ความรู้เหล่านี้อาจเปลี่ยนชีวิตคุณในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้
10.อยู่กับคนที่มองเห็นคุณค่า และดึงข้อดีของเราออกมา
หากยังจำข้อหนึ่งได้ –ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดก็คือ ‘เวลา’– ดังนั้น เราจึงไม่ควรเสียเวลาอยู่กับคนที่ทำให้หัวใจเราล้มเหลว คนที่มีแต่พลังแง่ลบ และไม่เห็นคุณค่าของเรา
พยายามพาตัวเองไปอยู่กับคนที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานบวก คนที่มองเห็นข้อดีของเรา และจะดีที่สุด ถ้าเขาช่วยส่งเสริมให้สิ่งที่เรามีนั้นดีขึ้น
แต่ถ้าคนที่อยู่ในชีวิตของคุณตอนนี้ ไม่มีใครที่เป็นแบบนั้น …ลองหาคนใหม่ๆ ดูไหม
ที่มา : missiontothemoon