
เชื่อว่าไม่มีใครอย ากเป็นหนี้ แต่ถ้ามีขึ้นมาแล้วคงรู้สึกหนักใจไม่น้อย
เมื่อการหนีไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่ประเด็นคือเราจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไร?
บทความนี้จะพา ผู้ อ่ า น ทุกท่านไปพบกับคำตอบที่อย ากรู้ในเรื่อง “วิธีปลดหนี้ฉบับเร่งด่วนด้วยหลัก 4 ป.” ที่ทำง่าย ได้ผล ชั ว ร์
หากใครกำลังประสบปัญหานี้อยู่ก็สามารถนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ได้ หรือถ้าใครยัง
ไม่มีหนี้ก็จะได้รู้ว่า ควรรับมืออย่างไรหากต้องเจอภาระหนี้สินแบบไม่ทันตั้งตัว
1. “เปิดใจ” ยอมรับความจริง ดูว่าหนี้สินทั้งหมดของเรามีอะไรบ้ า ง เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองมีภาระหนี้สินมากเกินไป
การหนีไม่ช่วยให้หนี้สินหมดไปแน่นอน และยิ่งเราทำเป็นไม่สนใจไปเรื่อย ๆ จำนวนหนี้ก็จะขย ายใหญ่ขึ้นจนหนทางแก้ไขในที่สุด
นาทีนี้การเปิดใจยอมรับความจริงคือสิ่งที่ควรทำที่สุด เริ่มจากการหยิบใบแจ้งหนี้ที่คุณเคยซ่อนไว้ออกมาให้หมด
เปิดดูทุกรายการอย่างละเอียด หากยอดสูงติดเพดานก็อย่าเพิ่งใจเสียจนไม่กล้าดูต่อ
หลังจากนั้นมาพิจารณาว่าที่ผ่านมาเราค้างค่าชำ ร ะ กี่งวด มีจำนวนเงินต้นและ
ด อ ก เ บี้ ย เท่าไร ถึงกำหนดวัน ชำ ระ เมื่อไร เพื่อจะได้ว่ารายการไหนรอได้ หรือรายการไหนต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน
2. “ปิดยอดหนี้” ที่มี ด อ ก เ บี้ ย สูงที่สุดก่อน พอเห็นยอดหนี้ที่เรามีทั้งหมดแล้ว
ทีนี้มาวางแผนการชำ ระ อย่างเป็นระบบกันดีกว่า โดยแยกออกเป็นหนี้ระยะสั้น
ยอดหนี้รวมคงเหลือน้อย อัตรา ด อ ก เ บี้ ย ต่อปีสูง มีงวดผ่ อ น ชำ ร ะ น้อย เช่น
หนี้บั ต ร เ ค ร ดิ ต สิ น เ ชื่ อ ส่วนบุคคล ฯลฯ และหนี้ระยะย า ว ยอดหนี้รวมคงเหลือมาก
มีอัตรา ด อ ก เ บี้ ย ต่อปีต่ำ แต่มีงวดผ่ อ น ชำ ร ะ มาก เช่น สิ น เ ชื่ อ บ้ า น รถยนต์ ฯลฯ
ซึ่งในที่นี้ขอ แ น ะ นำ ให้ปิดยอดหนี้ระยะสั้นที่มียอดหนี้รวมคงเหลือน้อยที่สุด อัตรา ด อ ก เ บี้ ย
ต่อปีสูงที่สุด และเหลืองวดผ่ อ น ชำ ร ะ น้อยที่สุดเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ ด อ ก เ บี้ ย สูง
ไปมากกว่านี้ หากปิดยอดหนี้แรกสำเร็จก็จะสบายใจขึ้น และรู้สึกมีกำลังใจในการปิดยอดหนี้อื่นต่อ ๆ ไป
3. “โ ป ะ ห นี้ ” ปรับแผนการ ชำ ร ะ หนี้อย่างมีสติ ไม่สร้างหนี้ใหม่ บางคนใจร้อนไปหน่อย
อ ย า ก ปลดหนี้ให้หมดไว ๆ เลยใช้ทางลัด ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยืมจากคนรอบข้าง
ใช้บัตรกดเงินสด เปิดสิน เ ชื่ อส่วนบุคคล หรือเลือกกู้เงิน น อ ก ร ะ บ บ มาโปะหนี้เก่าให้หมดเร็วที่สุด
ซึ่งขอบอกว่าวิธีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย แม้หนี้ก้อนเก่าจะหมดไป
แต่หนี้ก้อนใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่ แถม ด อ ก เ บี้ ย ยังสูงมากอีกด้วย จึง อ ย า ก
แนะนำให้ใจเย็นสักนิด แล้วลองหาวิธีการ ชำ ร ะ หนี้แบบง่าย ๆ แต่ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
และเป็นภาระให้ตนเองในภายหลัง เช่น ประหยัดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นลง
หรือเปลี่ยนสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นเงินสดเพื่อมาโปะหนี้ เป็นต้น
4. “ปรึกษาธนาคาร” หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วไม่เห็นผล
การติดต่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของเราคือทางออกที่ดีที่สุด
บอกเขาไปตรง ๆ เลยว่าหนี้สินทั้งหมดนั้นเราไม่สามารถจ่ายไหวในระยะเวลาที่กำหนด
แต่ยืนยันว่าจะไม่เบี้ยวหนี้แน่นอน เราในฐานะลูกหนี้ก็ไม่ อ ย า ก เสียประวัติ
ส่วนธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ก็ต้องการให้เรา ชำ ร ะ เงินให้ครบเช่นกัน
ฉะนั้น ทั้งเราและเขาต้องหาจุดกึ่งกลางร่วมกัน พูดคุยถึงสถานการณ์ของเราว่าสะดวกผ่ อ น
ชำ ร ะ ได้เมื่อไร งวดละเท่าไร และธนาคารเองมีนโยบายใดที่ช่วยเหลือเราได้บ้ า ง
เช่น พัก ชำ ร ะ หนี้ชั่ ว คราว ขอจ่ายเฉพาะเงินต้นไปก่อน ปรับลดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย หรือรีไฟแนนซ์ เป็นต้น
เพราะหนี้สินคือสิ่งที่ไม่มี อ ย าก เจอ แต่ถ้าเจอแล้วต้องวางแผนให้รอบคอบ
พร้อมลงมือทำอย่างมีวินัยนั้น เชื่อว่าเราจะเปลี่ยนจากสถานะลูกหนี้ไปสู่คนไม่มีหนี้ได้แน่นอน
และขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราบริหารการใช้เงินในปัจจุบันและอนาคตอย่างมีสติ
เพื่อไม่ให้ความรู้สึกกังวลจากหนี้สินวนกลับมาอีกครั้ง
ที่มา : k r u n g t h a i