
สาว ๆ หลายคนคงคิดอย ากหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดูดีกว่าเดิม แต่ทราบกันไหมคะว่ากุญแจสำคัญที่จะทำให้เราเป็นคนใหม่ที่มีความสุขอย่ างยั่งยืนที่สุด คือ การเริ่มต้นเปลี่ยนจากภายในจิตใจ
ปรับทัศนคติวิธีคิด และมองโลกในแง่บวกให้มากขึ้น คนมองโลกในแง่บวกไม่ใช่คนโ ง่หรือคนอ่อนแอแต่เป็นคนที่รู้จักเลือกใช้ชีวิตอย่ างมีความสุขและพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาต่าง ๆได้ทุกสถานการณ์ วันนี้ เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับสาว ๆ ที่อย ากสวยเปล่งประกายจากภายในมาฝากค่ะ
เปลี่ยนวิธีคิดมองโลกในแง่บวก
สาว ๆ เคยสังเกตตัวเองกันไหมว่า เป็นคนชอบมองโลกในแง่ร้ า ย เอะอะก็คิดด้านลบบั่นทอนจิตใจไว้ก่อนหรือเปล่ายกตัวอย่ างเช่น พอมีอุปสรรคเข้ามาก็มัวแต่คิดว่า ทำไมเรื่องแย่ ๆ ต้องเกิดกับเราคนเดียว
ทำให้เราจมอยู่กับปัญหา หาทางออกไม่เจอสักที ที่ถูกคือควรเปลี่ยนความคิดว่าทุกคนบนโลกล้วนมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาเป็นบททดสอบด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้ก็จะพบความสุขรออยู่ข้างหน้าพอคิดบวกแล้วก็จะมีพลังใจและความหวังในการต่อสู้ชีวิตเพิ่มขึ้น
แต่งแต้มใบหน้าด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ
การยิ้มจะส่งกระแสไปยังระบบประสาทและสมองว่าเรามีความสุข และหลั่งสารแห่งความสุขออกมา จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์และช่วยให้หายเครียดได้ สาว ๆ ที่มีรอยยิ้มเสมอย่อมดูมีเสน่ห์และเป็นมิตรเป็นที่ประทับใจมากกว่าสาว ๆ
ที่หน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ การยิ้มยังเป็นการกระจายความสุขให้คนรอบข้าง บรรย ากาศรอบตัวก็ดีขึ้น แถมยังช่วยให้หน้าผ่องใสเปล่งออร่าออกมาจากภายใน รู้แบบนี้แล้วก่อนออกจากบ้านอย่ าลืมฝึกยิ้มหวาน ๆ ให้ตัวเองในกระจกทุกเช้าเป็นการเรียกกำลังใจล่ะ
ใช้น้ำเสียงที่น่าฟังในการสื่อสาร
ควรฝึกพูดด้วยโทนเสียงที่น่าฟังถูกกาลเทศะให้เป็นนิสัย รู้จักใช้เสียงผ่อนหนักผ่อนเบาให้เหมาะสมกับสถานการณ์เช่น ถ้างานมีข้อผิดพลาดแทนที่เราจะใช้น้ำเสียงไม่พอใจใส่เพื่อนร่วมงาน
ก็เปลี่ยนเป็นอธิบายด้วยโทนเสียงปกติไม่ใส่อารมณ์มีความเป็นมืออาชีพ บรรย ากาศที่ตึงเครียดอยู่ก็จะผ่อนคลายเพื่อนร่วมงานก็จะรับฟังความเห็นและช่วยกันแก้ปัญหา งานก็จะลุล่วง ส่วนตัวเราเองก็จะไม่หงุดหงิดจนไมเกรนขึ้นไปด้วย
อยู่ใกล้คนมีพลังงานบวก
ถ้าเราอยู่กับคนที่มีทัศนคติแย่ ๆ ชอบพูดให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี หน้าตาบึ้งตึง หรือหดหู่อยู่ตลอดเวลา ก็จะพลอยทำให้เรารับพลังงานด้านลบนั้นมาและห่อเหี่ยวตามไปด้วย แต่กลับกันถ้าเราห้อมล้อมไปด้วยคนที่มีพลังงานบวกสดใสร่าเริง คิดดี ทำดี พูดดี เราก็จะรู้สึกสดชื่นและได้รับการส่งต่อพลังงานบวกของชีวิตมาด้วย
รู้จักให้อภัยตัวเอง
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ 100% ทุกคนล้วนทำผิดพลาดกันได้ บางครั้งเราให้อภัยความผิดพลาดของคนอื่นได้ง่ายแต่กลับไม่ยอมให้อภัยตัวเอง เพราะมัวแต่หมกมุ่นถึงความผิดพลาดจนทำให้จิตใจจมปลักอยู่กับความเศร้าหมอง
เราควรระลึกไว้เสมอว่าเรื่องผ่านไปแล้วไม่สามารถที่จะย้อนอดีตไปแก้ไขได้ ที่ทำได้ดีที่สุดก็คือเรียนรู้และยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีขึ้น และไม่ทำพลาดเป็นครั้งที่ 2 อีก
เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง
เคยไหมที่บางครั้งเรารู้สึกหงุดหงิดกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น รอยตีนกาบนหน้าที่มาพร้อมอายุ สภาพอากาศที่แปรปรวนวันหนึ่ง 3 ฤดู หรือความคิดแย่ ๆ ของคนอื่น ทางที่ดีเราต้องเรียนรู้ที่จะปลงบ้างรู้จักปล่อยวางเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตเราก็จะพบความสุขเพิ่มขึ้น
สวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอน
เราอาจเจอเรื่องแย่ ๆ คนแย่ ๆ มาทั้งวัน การสวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอนจะทำให้เราได้ปล่อยวางความเครียด รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบไม่หงุดหงิดโมโหง่าย มีสติในการคิดรับมือกับปัญหาต่าง ๆ อยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังทำให้เป็นคนความจำดี ใบหน้าอ่อนเย าว์ แถมได้บุญอีกต่างหากไม่ย ากเลยใช่ไหมคะกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากภายใน ขอแค่คุณเปิดใจมองโลกในมุมบวก
ปรับทัศนคติ ทำความเข้าใจเรียนรู้ตัวเองและคนรอบข้าง รู้จักปล่อยวาง ผ่อนหนักผ่อนเบากับชีวิตบ้างแค่นี้สาว ๆ ก็จะเป็นคนใหม่ที่สวยทั้งจิตใจและความคิด ส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความสุขใครอย ากเป็นคนใหม่ทั้งภายในและภายนอก อย่ าลืมอ่ า นบทความภาคต่อที่นี่นะคะ
ที่มา : krungsri